บัญชี ปิติ วิบูลย์ธนภัณฑ์ ธ.กสิกรไทย สาขาตราด 225-2-33197-5

วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554

การติดตั้งเครื่องพ่นหมอก UFO ด้วยตัวท่านเอง

มีลูกค้าหลายๆท่านได้ซื้อ เครื่องทำความชื้น รุ่นUFO ไปติดตั้งเองซึ่งผมก็เห็นด้วยเพราะไม่ยากไม่ต้องไปเสียเงินจ้างช่างมาติดตั้ง แต่ผมก็มีเทคนิคง่ายๆที่ได้ผลมาบอกท่านผู้อ่าน รวมทั้งการแก้ไขปัญหาต่างๆได้ด้วยตัวท่านเอง
    1.เมื่อท่านได้สินค้ามาก็เปิดกล่องและลองเสียบปลั๊กก่อนเลยครับว่ามอเตอร์ทำงานหรือไม่เพราะเป็นส่วนสำคัญที่สุดของ เครื่องพ่นหมอก ถ้ามอเตอร์ไม่หมุนก็ลองเอามือช่วยหมุนก่อนครับเพราะบางทีการขนส่งอาจทำให้ใบพัดฝืดได้ ถ้าหมุนก็จบหรืออาจลองตรวจสอบปลั๊กไฟของท่านว่ามีไฟมาหรือไม่
    2.การเลือกใบพัดให้เหมาะสมกับขนาดความสูงของบ้านท่าน (ดูในบทความก่อนนะครับ)
    3.ตำแหน่งการวาง ง่ายๆขยับให้ละอองน้ำกระจายให้ทั่วบ้านดูว่าพื้นที่นั้นๆต้องใช้สักกี่เครื่อง
    4.ต่อสายยางน้ำเข้าเครื่องและรัดเข็ดขัดให้แน่น เปิดน้ำค่อยๆไม่ต้องเปิดสุดนะครับเอาแค่น้ำไหลเบาๆ และผมขอเพิ่มวิธีแก้ไขสกรูขันกันน้ำล้นหน่อยครับ คือของเดิมหน้าสัมผัสมันน้อยมีโอกาสจะปิดน้ำไม่ค่อยอยู่ ดูจากภาพนะครับ จะเห็นว่ามันโดนกันอยู่นิดเดียว
วิธีง่ายๆของผมเองทำได้2วิธี
วิธีแรกกลับข้างน๊อตซะเอาแบบบ้านๆแต่ได้ผลดี
                  วิธีที่สองใส่น็อตตัวเมียเพิ่มเข้าไปอันนี้ก็ไม่ยากได้ผลเหมือนกัน
   5.ต่อสายยางกับท่อน้ำล้น แล้วเอาปลายสายยางไปไว้ที่ท่อระบายน้ำ อันนี้ก็ขอเสนอเทคนิคอีกนิดครับ คือของเดิมไม่มีโอริงไว้ที่ท่อน้ำล้นเวลาน้ำล้นก็จะออกใต้รูก่อนที่จะถึงรูระบายน้ำล้น วิธีก็ไม่ยากอีกเช่นกัน คือใส่โอริงเข้าไปโดยใช้โองริงของมิเตอร์น้ำประปาเส้นละ3-5บ.ก็จะทำให้หมดปัญหานี้ครับ
จับใส่โอริงซะจบปัญหาเลยครับถ้าไม่รู้ขนาดโอริงก็ถอดเอาแหวนพลาสติกตัวเมียไปเทียบได้เลยครับ

 6.เปิดน้ำแล้วเช็คระดับควาสูงของน้ำในอ่างควรจะอยู่ใต้วงแหวนกันน้ำล้นพอดีและไม่ต้องเปิดน้ำแรงเกินไปนะครับเพราะจะทำให้แรงดันน้ำมาสู้กับแรงของลูกลอยได้
 7.ถ้ามีน้ำซึมใต้ขาของถาดน้ำให้ขันสกรูให้แน่น อาจจะเป็นเพราะเป็นน็อตที่ขันมาไม่แน่น
 8.ควรจะเปิดทิ้งไว้สัก 2-3 วันเพื่อให้แน่ใจก่อนว่าการทำงานสมบูรณ์มั้ยแล้วค่อยเปิดเรียกนกเข้าบ้าน
  วิธีง่ายๆในการติดตั้งไม่ยากเลยไปลองกันดูนะครับ

ที่มา : http://ennthai.blogspot.com/

ศึกหม้อหุงข้าว ปะทะ UFO ภาค2

เมื่อผมจับเจ้าเครื่องปั่นหมอก รุ่นหม้อหุงข้าวมาเปรียบเทียบกับเจ้ารุ่นน้องUFO ในคราวก่อนนั้นหลายๆท่านก็ยังสวสัยว่า พลังไอน้ำ4-6ลิตร ของUFOนั้นมันมากกว่า2-2.5ลิตรของรุ่นหม้อหุงข้าวขนาดไหน เพื่อให้หายข้องใจเลยนำภาพมาเปรียบเทียบดีกว่า ที่นี้จะได้หายสงสัยกันเสียที
คงเห็นปริมาณละอองน้ำนะครับว่าแตกต่างอย่าเห็นได้ชัดนะครับ แล้วละอองน้ำเยอะมีผลดีอย่างไรบ้าง คำตอบคือ ประหยัด เพราะถ้าละอองน้ำมากเท่าไร่ก็ทำความชื้นได้เร็วขึ้นเท่านั้น เมื่อความชื้นได้ปริมาณที่ต้องการเร็วก็ไม่ต้องทำงานนาน ประหยัดไฟฟ้าและเครื่องก็จะมีอายุการใช้งานนานขึ้นเพราะไม่ต้องเปิดเป็นเวลานาน ที่สำคัญละอองน้ำละเอียดมากและอยู่ในอากาศได้นานกว่า ความชื้นก็จะคงทีอยู่ได้นานไม่ต้องทำงานบ่อยๆส่งผลดีตามกันมาแถมใช้จำนวนเครื่องน้อยลงด้วยเพราะUFOให้ความชื้นในพื้นทีมากกว่าและที่สำคัญนกแอ่นชอบมากซะด้วย
     มีคำถามต่อมาอีก???แล้วละอองน้ำขนาดนี้ไม้ไม่เป็นราเหรอ 555 เจ้าUFOมีใบพัดแถมมาให้ทั้งหมด 3ใบให้เลือกใช้ได้ตามต้องการโดยผมได้ทำงานทดสอบไว้ให้แล้วครับดังนี้
   1 ใบพัดใหญ่สุดสีดำเหมาะกับบ้านที่มีความสูง 3 เมตรขึ้นไป
   2 ใบพัดกลางสีขาวเหมาะกับบ้านที่มีความสูง2.5-3เมตร
   3 ใบพัดเล็กสีดำเหมาะกับบ้านที่ไม่สูงนักต่ำกว่า2.5เมตรลงมาและยังสามารถนำไปใช้ร่วมกับบ้านที่ใช้ความชื้นระบบฉีดน้ำแรงดันสูงใส่รางและใช้พัดลมเป่าออกได้อีกด้วย
ทีนี้ก็หมดปัญหาเรื่องราไปได้ละครับ ทีนี้มาถึงเรื่องสีบ้างหลายๆคนถามผมว่าUFOมีแต่สีขาวเหรอ? คำตอบคือมี2สีครับ แต่หลังผมจะเอามาแต่สีม่วงเพราะลูกค้าบางท่างกลัวว่านกจะตกใจ (มันไม่เกี่ยวกันเลย) แต่ก็เพื่อความสบายใจของท่านลูกค้า
และท่านใดมีปัญหาสงสัยอีกก็โทรมาสอบถามได้นะครับ ขอบคุณครับ

ที่มา : http://ennthai.blogspot.com/

วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ศัตรูบ้านนกแอ่น

เมื่อไม่กี่วันที่แล้วผมได้เปิด บ้านนกแอ่น หลังล่าสุด เปิดวันแรกนกก็ตอมมากจนตกใจ อีกวันขึ้นไปเช็คความเรียบร้อยให้แน่ใจอีกที มีนกนอนค้างคืนซะแล้วครับ ดูจากขี้นก ทำให้เจ้าของบ้านดีใจมากทีเดียว แต่ดีใจได้ไม่นานก็ไปพบกับปัญหาใหม่ ซึ่งเป็นความประหมาดของผมเอง มันก็คือ เจ้าเหยี่ยวนกเขา


ผมทำบ้านหลังนี้มา3เดือนไม่เคยเห็น แต่พอเปิด บ้านนก ได้ 2 วันมันดันมาลอยหน้าลอยตาเฝ้าหน้าบ้านเป็นยามให้ซะงั้น น่าเขกกระโหลกตัวเองจริงทั้งที่เป็นคน จำหน่ายอุปกรณ์บ้านนก ป้องกัน บ้านนกแอ่น แท้ๆ ขายให้คนอื่นไปตั้งหลายคนแต่ตนเองลืมใส่ซะนี่ จริงๆแล้วศัตรูทางธรรมชาติของนกแอ่น ก็มีมากมาย เช่น ตุ๊กแก,หนู,งู,เหยี่ยว,มด,นกแสกเป็นต้น                                    
ขอบคุณภาพจาก http://www.g-u-p-p-y.com/club/
นอกจากเราจะใส่ใจในการทำบ้านนกแอ่นของเราให้นกชอบที่สุด มีอุณหภูมิ-ความชื้นที่เหมาะสม เสียงนก ที่ดี ทางเข้า-ออกที่ดีแล้ว เรื่องการป้องกันศัตรูนกแอ่นก็ลืมเสียมิได้ ป้องกันไว้ก่อนล่วงหน้าเลยครับไม่ต้องรอให้เห็นตัวแล้วค่อยมาแก้ ผมเดินรั่วไฟฟ้าสำหรับบ้านนกไว้ในจุดที่คิดว่าจะมีศัตรูผ่าน ป้องกันไว้ล่วงหน้าครับ

รั้วไฟฟ้า ทำงานโดยใช้ไฟ 220 v แปลงเป็นไฟประมาณ 110 v โดยปล่อยไฟเป็นจังหวะ ไม่เป็นอันตรายต่อคนและนกแอ่น ท่านใดอยากมีไว้ใช้ก็โทรมาสอบถามรายละเอียดได้ยินดีให้คำปรึกษาและเทคนิคการติดตั้งครับ 
083-777-8282


ที่มา : http://ennthai.blogspot.com/

วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2554

สำหรับผู้ที่เริ่มจะทำบ้านนก


ปัจจุบันมีบ้านนกเกิดขึ้นมากมายกระจายไปในหลายๆจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดตราดที่ผมอยู่เกิดมากขึ้นจนน่าตกใจ แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นคือบ้านนกที่ประสบความสำเร็จจริงๆกลับมีเพียงไม่กี่หลัง ทำไมเป็นอย่างนั้น วันนี้ผมจะลองเสนอข้อคิดสำหรับผู้ที่เริ่มต้นหรือผู้ที่กำลังจะทำบ้านนก ให้ลองคิดกันดูครับ
ผมจะแยกประเด็นใหญ่ๆเป็นสองประเด็นนะครับ
              1.คนที่ทำบ้านนกตามกระแส เห็นเค้าทำก็เอามั่ง
              2.คนที่ทำเอง โดยลักจำมาโดยไม่ศึกษาให้ท่องแท้

      เจ้าของบ้านประเภทที่ 1 จะประสบความเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับผู้รับเหมา-ออกแบบ ถ้าเจอดีก็โชคดี แต่โชคร้ายไปเจอ ผู้รู้ที่แอบอ้างว่ารู้อันนี้น่าเห็นใจครับ ตัวอย่างก็มีเยอะมากครับ โดยผู้แอบอ้างจะแบ่งได้ 2 ประเภท ด้วยกันครับ
พวกแรกคือ ช่างรับเหมาสร้างบ้านทั่วไป ที่มีโอกาศได้ไปทำบ้านนก เลยถือโอกาศอัปตัวเองเป็นช่างทำบ้านนกซะเลยจะได้เพิ่มค่าตัวได้ พวกนี้ไม่มีบ้านนกเป็นของตัวเอง ไม่มีความรู้เองอาศัยเคยเห็นก็ทำตามนั้นไป
พวกที่ 2 ก็คือพวกที่เป็นเจ้าของบ้านนกมาหลังเดียวก็ถือว่าตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญ รับออกแบบ พวกนี้ดีกว่าพวกแรกนิดหน่อย อย่างน้อยก็ยังได้เห็นได้รู้บ้าง
  ถ้างั้นมาดูวิธี เลือกผู้รับเหมาออกแบบกันดีกว่าว่าจะเลือกยังไงดี
    1.ดูว่าผู้รับเหมาผู้นั้นมีบ้านนกเป็นของตัวเองหรือยัง อย่าไปฟังที่เค้าบอกว่าทำมาเยอะหลังนู้นก็ทำหลังนี้ก็ติด แต่ไอ้หลังที่ไม่ติดเค้าจะเอามาพูดเหรอครับ โดยส่วนตัวผมว่าถ้าช่างไม่มีบ้านนกตัวเองหรือยังไม่กล้าทำของตนเอง แล้วจะมาทำให้คนอื่นมันจะดีเหรอครับ แล้วทำไปแล้วการบริหารในบ้านนกหลังมีรังไปแล้วจะทำอย่างไร แต่ข้อดีก็คือช่างพวกนี้จะราคาไม่แพงครับ แต่ผมว่าถ้าทำแล้วไม่ติดเท่าไร่ก็แพง จริงมั้ยครับ
   2.ผู้รับเหมาออกแบบที่มีบ้านนกเป็นของตัวเองแล้ว ท่านเจ้าของบ้านต้องไม่ดูว่าที่บ้านผู้นั้นมีนกติดจริงมั้ย และมีของตัวเองกี่หลังแล้ว มีจำนวนนกเยอะเท่าไร่ ทำมานานเท่าไหร่ ไม่ต้องไปถามเค้าครับเพราะเค้าจะบอกว่ามีเยอะติดจริง วิธีดูไม่ยากครับ ลองไปดูตอนใกล้มืดครับ ตอนที่เริ่มโพล้เพล้ เพราะนกจะกลับบ้านเวลานั้น การดูว่านกตอมนั้นวัดไม่ได้ครับ บางบ้านมีนกตอมเยอะแต่ไม่ค่อยอยู่ก็มีหรือ เราไปดูตอนที่นกไม่ตอมก็ไม่ได้แปลว่าบ้านเค้าไม่มี ดูตอนใกล้ค่ำชัวว์กว่า
  วีธีง่ายๆใช่มั้ยครับแค่นี้เราก็ป้องกันผู้แอบอ้างได้แล้วในระดับนึ่งแล้วครับ

     เจ้าของบ้านประเภทที่ 2 ท่านต้องหาความรู้ให้ดีก่อนนะครับก่อนลงมือ ช้าไม่เป็นไรให้ชัวว์แล้วกัน คำนี้ยังใช้ได้เสมอครับ เพราะการที่เราเปิดบ้านแบบไม่พร้อมนอกจากจะเสียเวลาทีหลังแล้ว การปรับเปลี่ยน ปรับปรุงยังทำได้ลำบากอีกด้วย จะทำให้เสียทั้งเงินละเวลามากกว่าเดิม ศึกษาให้มั่นใจก่อนลงมือทำ เพราะปัจจุบันมีที่หาความรู้มากมายโดยเฉพาะทางอินเตอร์เน็ต ไม่เหมือนตอนที่ผมทำแรกๆช่วงนั้นความรู้เรื่องบ้านนกไม่เป็นที่เปิดเผยเรียกว่าเป็นความลับสุดยอด ขนาดเพื่อนผมที่ทำมาก่อนก็ยังไม่ยอมบอกเลยครับ รวบรวมความรู้ให้แน่นจากหลายที่เปรียบเทียบข้อมูลที่ได้มาคัดกรองมาสะสมไว้ และลงมือทำอย่างมั่นใจ อย่าไปโลเล ต้องเป็นตัวของตัวเอง เพราะถ้าเราแกว่งเราจะหลงทางได้ เชื่อมั้ยครับว่าผู้อ่านหลายๆท่านมีความรู้มากกว่าช่างรับเหมาแบบแอบอ้างอีก (จริงๆนะครับ) ถ้าอย่างนั้นจะไปจ้างมาทำไม เหมือนจ้างมาเอาความรู้จากเรามากกว่า เลือกช่างรับเหมาทั่วไปดีกว่า ประหยัดกว่าด้วย
    แต่สำหรับท่านที่พลาดไปแล้วก็ไม่เป็นไรครับเริ่มใหม่ ถ้าจะหาผู้รู้มาแก้ไขก็เลือกสรรแบบที่ผมบอกไปแล้วข้างต้น  หรือจะแก้เองก็ศึกษาให้มั่นใจก่อน ผมจะเป็นกำลังใจให้ทุกท่านๆนะครับ
   สุดท้ายท่านใดที่ต้องการจะหาอุปกรณ์ตัวไหนของบ้านนกแอ่นก็โทรมาได้นะครับ(ขายของซะหน่อย 555) หรือท่านที่มีประสบการณ์เจอผู้รับเหมาที่ไร้คุณภาพ เอาแต่ตังค์อย่างเดียวก็โทรมาเล่าให้ผมฟังได้นะครับจะได้ช่วยกันเตือนไม่ให้ตกใครเป็นเยื่อ สงสารบางคนที่ใช้เงินเก็บที่เก็บมาทั้งชีวิตไปทำบ้านนกแล้วเจอช่างประเภทนี้ (ขอเป็นเขตตะวันออกพอนะครับ)
ขอจบเรื่องนี้ไว้เท่านี้ก่อนนะครับ  สวัสดีครับ

ที่มา : http://ennthai.blogspot.com/